คาดปูตินลงเลือกตั้ง ปธน. สมัยหน้า อยู่ต่อถึงปี 2030 “เป็นอย่างน้อย”

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของ วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งในปีนี้เขามีอายุ 71 ปีแล้ว และถือเป็นประธานาธิบดีรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานที่สุด โดยดำรงตำแหน่ง 8 ปี ช่วงปี 2000-2008 และกว่า 11 ปีตั้งแต่ 2012 จนถึงปัจจุบัน

และล่าสุดดูเหมือนว่า ปูตินจะยังคงเดินหน้าทำลายสถิติตัวเองไปเรื่อย ๆ เมื่อแหล่งข่าว 6 คนให้ข้อมูลแก่สำนักข่าวรอยเตอร์ตรงกันว่า ปูตินจะลงรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2024

รองหัวหน้ากลุ่มฮามาสปฏิเสธ ไม่ได้สังหารพลเรือนในอิสราเอล

ผู้นำยูเครนค้านจัดเลือกตั้งท่ามกลางไฟสงคราม

สหรัฐฯ เตรียมส่งมอบระบบยิงระเบิดความแม่นยำสูงช่วยอิสราเอล

ทั้งนี้ เดิมประธานาธิบดีรัสเซียมีวาระการดำรงตำแหน่งสมัยละ 4 ปี แต่ขยายเป็นสมัยละ 6 ปีหลังสมัยของ ดมิทรี เมดเวเดฟ ทำให้หากปูตินชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เขาจะได้อยู่ในอำนาจต่อไปอีก 6 ปี จนถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย

แหล่งข่าวบอกว่า ที่ปูตินตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี เนื่องจากเขารู้สึกว่า ต้องเป็นผู้นำทางรัสเซียผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

แหล่งข่าวที่พูดคุยกับรอยเตอร์โดยไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากความอ่อนไหวทางการเมือง ระบุว่า ตอนนี้ทีมที่ปรึกษาของปูตินกำลังเตรียมการหาเสียงเลือกตั้ง

คาดว่า หากปูตินร่วมชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ชัยชนะจะตกเป็นของเขาแน่นอน เพราะจากผลสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่า เขามีคะแนนนิยมในรัสเซียถึง 80% และด้วยการสนับสนุนของรัฐ สื่อของรัฐ และแทบไม่มีเสียงคัดค้านจากสาธารณชนกระแสหลัก จึงมั่นใจได้ว่า เขาจะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกว่า “โลกที่เรากำลังมองดูนั้นอันตรายมาก” อีกคนบอกว่า ปูตินเพิ่งตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้และจะมีการประกาศในไม่ช้า

ที่ผ่านมา แม้ว่านักการทูต สายลับ และเจ้าหน้าที่ต่างประเทศจำนวนมาก จะประเมินว่า ปูตินจะยังคงอยู่ในอำนาจไปตลอดชีวิต แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการของเขาที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม 2024

ด้านโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เปสคอฟ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนเขาเคยบอกว่า หากปูตินตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้ง จะไม่มีใครสามารถสู้กับเขาได้

กระนั้น แม้ว่าปูตินอาจไม่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่แท้จริงในการเลือกตั้ง แต่เขาก็ต้องเผชิญความท้าทายจากสงครามกับยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่

สงครามในยูเครนได้ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาในปี 1962 การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกได้สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจรัสเซียในรอบหลายทศวรรษ และปูตินยังเผชิญกับการกบฏโดย เยฟกินี พริโกซิน ทหารรับจ้างที่ทรงอิทธิพลที่สุดของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจของเขาครั้งใหญ่

ชาติตะวันตกระบุว่าปูตินเป็นอาชญากรสงคราม และเป็นเผด็จการที่ทำให้รัสเซียอ่อนแอลง ขณะเดียวกันก็รวมชาติตะวันตกให้เป็นหนึ่งเดียวกันและทำให้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรทางทหารอย่างนาโต โดยเฉพาะการยื่นขอเป็นสมาชิกของฟินแลนด์และสวีเดน

“รัสเซียกำลังเผชิญกับอำนาจอันเป็นหนึ่งเดียวกันของชาติตะวันตก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จึงไม่สมควร” แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวรัสเซียบางคน สงครามได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของรัสเซียหลังยุคโซเวียต

อเล็กเซ นาวาลนี นักการเมืองฝ่ายค้านรัสเซียซึ่งเป็นที่รู้กัว่าต่อต้านปูติน กล่าวว่า ปูตินได้นำรัสเซียไปสู่ทางตันทางยุทธศาสตร์ สู่ความพินาศ สร้างระบบการปกครองที่เปราะบางเพราะเต็มไปด้วยพวกผู้ประจบประแจงและทุจริต ซึ่งท้ายที่สุดจะสร้างความวุ่นวายมากกว่าเสถียรภาพ

โอเลก ออร์ลอฟ หนึ่งในนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดของรัสเซีย เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า “รัสเซียกำลังถอยหลัง … เราละทิ้งลัทธิเผด็จการคอมมิวนิสต์ แต่ตอนนี้กำลังก้าวไปสู่ลัทธิเผด็จการแบบอื่น”

เรียบเรียงจาก Reuters

ภาพจาก Grigory SYSOYEV / POOL / AFP

 คาดปูตินลงเลือกตั้ง ปธน. สมัยหน้า อยู่ต่อถึงปี 2030 “เป็นอย่างน้อย”

เผยโฉม 86 สาวงาม ชิง Miss Universe 2023 เงื่อนไขใหม่สาวข้ามเพศ-แต่งงาน-มีลูก เข้าประกวดลุ้นมง คำพูดจาก สล็อตออนไลน์

โออาร์-บางจาก ลดเบนซินทุกชนิด สูงสุด 2.50 บาท มีผล 7 พ.ย.66 ตามมติ ครม.

สื่อนอกประเมิน นักท่องเที่ยวจีนกำลังหายไปจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย